พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้า หน้าตัก 5 นิ้ว วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เสริมสิริมงคลชีวิต

TBS234 พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้า หน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมดำเสริมสิริมงคลชีวิต&n
 
ราคา : 4,999 บาท
ซื้อชิ้นนี้ได้รับ= 49 บาท(แต้ม)
ค่าจัดส่งขั้นต่ำ :
 
จำนวนสินค้า : (ระบุจำนวนสินค้าที่สั่งซื้อ)
 
ทีบีเอส 234

0.00

คะแนน

รีวิวร้านค้า:
(ยังไม่มีการรีวิว™)
รายละเอียดสินค้า


TBS234

 

 

พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้า 

 

หน้าตัก 5 นิ้ว 

 

เนื้อทองเหลืองรมดำ

 

เสริมสิริมงคลชีวิต

 

 

พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้า 

หน้าตัก 5 นิ้ว วัดท่าซุง

จ.อุทัยธานี สิริมงคลชีวิต

 

 

 

free unlimited image hosting service

พระคาถาบูชาองค์ปฐมพระพุทธเจ้า

นะโม พระพุทธสิกขี พระพุทธเจ้า

ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติในวัฏฏะสงสารโดยสิ้นเชิง และด้วยพระบารมีอันมิอาจประมาณ ลูกนบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้จิตของลูก สะอาด สว่าง สดใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านนิพพานเทอญ สัมปจิตฉามิ (ท่อง 9 จบ)

หมายเหตุ: อานิสงค์คือ 1.   หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวง 2.   จิตเข้าถึงความเป็นอริยะ 3.   หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด  คาถาอีกบทหนึ่ง

นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสา วา วะชิรัง นามะ ปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง สมเด็จพ่อองค์ปฐมต้นพุทธะรูปัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม

 

ประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม

 

“สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี”แต่พระพุทธ เจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น พระพุทธสิกขีที่ 1 พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่า ทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู”อย่างแท้จริง

สมัยที่สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้น คนมีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่น ปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพาน หลังจาก ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัปในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง ทรง ใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อ บรรลุ พระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ ถึง 40 อสงไขยกัปเศษ การพบสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 คือท่านกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น นั่นคือเห็นเป็นพระพุทธเจ้าในปางนิพพานยืน สองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้วก็พนมมือ จึง มีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้าม่เคยก้มศรีษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือน เล็กๆ ที่หลังคา ตํ่าๆ หาก พระพุทธเจ้าเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้น แต่เวลานี้เห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ อุปาทานคือกิเลสคงกินใจมาก เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างข้าง ๆ หลวงปู่ปานท่านบอกว่า " คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา " อีกประมาณสัก 5 นาที ปรากฏว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูป ของปางนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ก้มศรีษะ แสดงความเคารพ เพราะพนมมืออยู่แล้ว พอท่านเดินไปถึง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านก็ตรัสว่า" ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า... ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน " ก็เลยนั่งบนหัว แล้วท่านก็บอกว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมะก็ดี จะเทศน์ก็ดี บอกฉันก่อน ฉันให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น” ก็เป็นความจริง เมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ สอนกรรมฐานก็ดี เทศน์ก็ดี บางทีคิดว่าวันนี้จะพูดเรื่องอย่างนี้ แต่พอพูดเข้าจริง ๆ เรื่องนั้นไม่ได้พูดไปพูดอีกจุดหนึ่ง อันนี้เป็นลีลาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ การเทศน์ของพระพุทธเจ้ามุ่งเฉพาะบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่งไม่ได้หวังคนทั่วไป คนจะนั่งสักหนึ่งพัน สองพัน ห้าพันก็ตาม ท่านจะดูจิตใจว่า บุคคลใดจะรับคำเทศนาของท่านได้ จะสาารถบรรลุมรรคผลได้ ท่านจะจี้จุดเฉพาะคนนั้นเอาจุดเด่น แต่ว่าคนที่มีความดีใกล้เคียงกันก็พลอยบรรลุมรรคผลไปตาม ๆ กัน

อันนี้ก็เช่นเดียวกัน อาตมาเวลาเทศน์หรือสอนกรรมฐานก็ไม่เคยได้พูดตามที่คิดไว้สักที อาจเป็นเพราะท่านดลใจ ถ้าจะถามว่าเป็นที่ชอบใจของคนทุกคนไหม ก็ขอตอบว่าไม่แน่นัก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าท่านอาจจะจี้จุดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่คนบางคนอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา ก็จึงมาคิดว่า ในเมื่อท่านมีพระคุณอย่างนี้ และก็เห็นเป็นปกติ จึงคิดจะหล่อรูปของท่าน

ต่อมาเมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนา ขอพบท่านในสมัยที่รูปร่างเป็นมนุษย์ ท่าน ก็ปรากฏพระองค์ให้เห็น ทรวดทรงสวยมาก หน้าของท่านอิ่มเหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากไม่บุ๋ม ไม่เหมือนพระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน แก้มตอบปากบุ๋มลงไป แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่างสมัยเป็นมนุษย์ และก็เปลี่ยนมาเป็น ปางนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์ จะให้ปั้นแบบไหน แบบปางพระนิพพานหรือแบบมนุษย์

พระพุทธองค์บอกว่า ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน ทรง แสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับ พระพุทธรูป และมีเรือนแก้ว แบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้นไม่เหมือนกับรูปจริงของพระองค์ตอนเป็นมนุษย์ และก็ไม่เหมือนรูปที่นิพพาน แต่ว่าเป็นรูปที่ท่านต้องการ ท่านมาแสดงแบบนั้นอยู่ถึง 3 วัน ติดๆ กัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ดูจนละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่าง เขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน จึงขอบารมีของท่านบอกว่า เวลาช่างปั้น ขอให้โปรดดลใจให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์ ท่านก็ยอมรับ ในที่สุดเมื่อเขาปั้นเสร็จ เขาก็เอามาให้ดูเหมือนกับรูปที่ท่านแสดงจริง ๆ นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์

เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อตัดสินใจปั้นรูปของสมเด็จองค์ปฐม ก็นึกถึงพระบรมสารีริกธาตุ เพราะพระพุทธรูปทุกองค์ในสถานที่สำคัญ ก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่เป็นพระบรมสารีริกธาตุขององค์ปัจจุบัน จึงคิพว่าจะหาได้จากไหน จึงตัดสินใจว่า ถ้าทำไม่ได้ก็จะเอาขององค์ปัจจุบันบรรจุ เพราะถือว่าเป็นคนละขั้นตอน ต่อมา ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังจะนอน จิตเริ่มเคลิ้ม ก็ได้ยินเสียงว่า “พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมเอามาให้แล้วนะ วางไว้ที่ตลับบนเตียงข้าง ๆ หัวนอน” ได้ยินเสียงชัดเจนแจ่มใสมาก เหมือนเสียงขององค์ปัจจุบัน จึงลุกขึ้นไปเปิดไฟ ปรากฎว่าที่ตรงนั้นไม่เคยวางตลับ มีแต่วางหนังสือสำหรับดูก่อนหลับ ก็มีตลับพลาสติคแบบปัจจุบันอยู่ลูกหนึ่ง ไปเปิดดูเห็นพระบรมสารีริกธาตุองค์โตสององค์ ก็ดีใจว่าขององค์ปฐมแน่ จึงเก็บไว้ในที่สักการะบูชา เอาไว้บรรจุพระองค์ท่าน

การสร้างมณฑปของสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญมาก ซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ชี้สถานที่ให้ เป็นบริเวณที่มีพระบรมสารีริกธาตุสำคัญมาก และเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้คนเดินผ่านไปมา จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งพระเพชพระคุณหลวงพ่อได้ให้ช่างทำการก่อสร้างมณฑปของสมเด็จองค์ปฐมดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

มาพูดถึงวัสดุที่จะใช้สร้างสมเด็จองค์ปฐม สร้างหน้าตักสี่ศอก เป็นพระหล่อด้วยโลหะ แล้วก็ผสมทองคำ เฉพาะเพชรที่ประดับเรือนแก้วหรือว่าผ้าทิพย์ มีราคาประมาณเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทเเศษ แต่ไม่ใช่เพชรจริง ๆ ราคาเพชรเม็ดหนึ่งประมาณ 12-13 บาทเท่านั้น ก็รวมความว่า ความสำคัญเนื่องในการสร้างองค์ปฐม คือว่าคนไม่เคยคิด หรือว่าอาจจะคิดบ้างก็ไม่ทราบ ว่า พระพุทธเจ้าจริง ๆ ที่มีความลำบากมากคือ “องค์ต้น” เพราะไม่เคยมีพระพุทธเจ้าเป็นครูมาก่อน ต้องลำบากบุกมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีแบบ เป็นเหตุดลใจให้ตั้งใจคิดจะเป็นพระพุทะเจ้า ต้องใช้เวลาถึงสี่สิบอสงไขยกัปเศษ จึงจะได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ดังนั้น การหล่อรูปองค์ปฐมนี้จึงมีอานิสงส์มาก การหล่อรูปสมเด็จองค์ปฐม จึงได้ทำการเททองหล่อ เมื่อวันที่ 15 มีนคม 2535 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นองค์ประธานจับสายสิญจน์ ในการหล่อพระพุทธรูป โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อทำการเททองลงในเบ้าที่ช่างเตรียมไว้ โดยใช้ทองคำที่ญาติโยมร่วมกันถวาย ประมาณ 78 กิโลกรัม

วันที่ 16 พฤษภาคม 2535 เป็นวันวิสาขบูชา พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้อัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขึ้นประดิษฐานบนแท่นภายในมณฑป ซึ่งเดิมพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม แต่เนื่องจากการตกแต่งพระวิหารก็ดี ยังไม่เรียบร้อย จึงต้องเลื่อนไข

วันที่ 13 มีนาคม 2536 เป็นวันเริ่มงานทำบุญประจำปีของวัดท่าซุง และในวันที่ 14 มีนาคม 2536 ได้นิมนต์พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา มาเป็นประธาน และได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมไว้ในพระเกตุมาลาของพระพุทธรูป ท่านพระครูปลัดอนันต์ พุทธญาโณ เจ้าอาวาสวุดท่าซุง ได้อาราธนาพระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ นำพระเกตุมาลามาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วอัญเชิญไปสวมที่พระเศียรของพระพุทธรูป แต่เนื่องจากการนำขึ้นไปลำบากและสูง พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์จึงมีบัญชาให้ท่านเจ้าอาวาสนำขึ้นไปแทน เมื่อเสร็จพิธี พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวว่า “พระองค์นี้มีลาภมากนะ”

ส่วนอานิสงส์ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐม ลุง 2 ลุง นายบัญชีกับลุงพุฒิ (หมายถึงท่านพระยายม) ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอกนี่...บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) “บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ท่านบอกถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก เพราะว่าการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด และกรทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไป ที่เขามีน้อย ๆ บาทสองบาท สิบสตางค์ยี่สิบสตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด ก็ถามว่าบัญชีสีทองหมายถึงอะไร ท่านบอกมันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด

การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่ อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้าบัญชีสีทองไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น
 

 
บัตรเครดิต / บัตรเดบิต


เพย์สบาย / เพย์พาว / เอ็มเปย์


TBS234 จัดส่งสินค้าโดย ระบบไปรษณีย์  EMS จัดส่งวันละ 2 รอบ

ตรวจสอบยอดเงินได้ก่อน 18.00 น.
** เราจะจัดส่งสินค้า ไปรษณีย์ลงทะเบียน
 กรุณารอรับสินค้าประมาณ  3-5 วันทำการ  

ไม่นับเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ 


รายละเอียดร้านค้า

 

 

 

TBS 234  

 ร้านค้าของเราจัดจำหน่าย

ให้เช่าบูชา พระพุทธรูป พระบูชา หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต พระพุทธชินราช พระแก้วมรกต

พระเกจิอาจารย์ รูปหล่อเหมือนพระเกจิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พฺรหฺมรํสี ) หลวงพ่อทวด

พระเครื่อง วัตถุมงคล ของสะสม รูปหล่อพระเกจิ พระโพธิ์สัตว์เจ้าแม่กวนอิม

เทพเจ้าตั่วเล่าเอี๊ยกง เทพเจ้ากวนอู

เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย ( เทพเจ้าโชคลาภ ) 

สัตว์เทพมงคลสวรรค์บันดาลโชค ปี่เซี๊ยะ ( ผี่ชิว )

เจี่ยบ๊วย ( เต่ามังกร ) เซียมซู มังกรทอง หงษ์ฟ้า

และ วัตถุมงคล เมตตาประทานพร เสริมศิริมงคล

ประสบความสำเร็จบังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

พระพิฆเณศ และ เครื่องหอม กำยานหอม

รับปรึกษา รับดูฮวงจุ้ย เสริมดวง 

เพื่อความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย

สนใจติดต่อสอบถาม tbs234_bkk@yahoo.com

 

 
 
รีวิวร้าน
คะแนนเฉลี่ย :
 ยังไม่มีการรีวิว™
               
 
สินค้าอื่นๆของร้านนี้