0.00
คะแนน
ผลงานของ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ประเภทปก อ่อน กระดาษ ถนอมสายตา พิมพ์ครั้งที่ 1 ปีที่พิมพ์ พ.ศ.2548 จัดพิมพ์โดย บุญกรม ดงบังสถาน และคณะ จำนวนหน้า 450 หน้า ขนาด 165x240 มม. สภาพหนังสือ:ปกมีรอยขีดข่วน รอยถลอกเล็กน้อย ตามภาพ , ใบรองปกมีตรายางของ นายเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี มอบเป็นอภินันทนาการประทับ , สันหนังสือมอมแมม เป็นจุดเหลืองประปราย , ตัวเล่มภายในสภาพค่อนข้างดี รายละเอียดเพิ่มเติม: การต่อสู้ครั้งสุดท้าย นำเสนอแนวคิด ตลอดจนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในระหว่างดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีดูแลความมั่นคง กับบทบาทหน้าที่การวางยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาภายใต้คำสั่ง 68/2547 โดยน้อมนำเอาพระราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนามาเป็นหลักยึด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอ “ทฤษฎีดอกไม้หลากสี” และ “ถอยคนละ 3 ก้าว” บนหลักคิดที่ว่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมถือเป็นความงดงามเหมือนกับดอกไม้ต้องมีหลายสีจึงจะสวยงาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ต้องการชี้ให้เห็นว่าหากยอมรับความเป็นจริงของปัญหา เห็นคุณค่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมเหมือนกับดอกไม้ต้องมีสีจึงจะสวยงามแล้ว ความขัดแย้งก็จะยุติได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของโลก พร้อมทั้งยังได้เจาะลึกให้เห็นว่าความไม่สงบที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ “ลึกและลับที่สุด” ที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อนนอกจากในหนังสือเล่มนี้ที่เดียว สารบัญ ภาคที่ 1 อิสลามและรัฐปัตตานี ภาคที่ 2 องค์กรต่างชาติและความรุนแรง ภาคที่ 3 จากปล้นปืนถึงตากใบ ภาคที่ 4 หลากมุมมองต่อความไม่สงบ ภาคที่ 5 ทฤษฎีดอกไม้หลากสีและ The Last War ภาคที่ 6 ภาคผนวก
ร้านสุหนังสือเก่า ร้านหนังสือเล็กๆ ในโลกออนไลน์ที่มุ่งมั่นจะให้ "หนังสือ" สิ่งที่เจ้าของร้านรักและทำให้เป็นผู้เป็นคนมาได้จนทุกวันนี้ ให้กระจายไปสร้างความสุข ทุกหนทุกแห่งในประเทศนี้เท่าที่โครงข่ายอินเตอร์เน็ตและไปรษณีย์จะอำนวย
ความเป็นมาของร้าน เริ่มต้นจากเมื่อประมาณปี 2542 หนอนหนังสือหนุ่มที่อยากทำธุรกิจซื้อ-ขายหนังสือบนอินเตอร์เน็ต โดยในช่วงแรกก็นำหนังสือที่ตนเองมีออกขายตามเวปบอร์ดต่าง ๆ เช่น bookcyber.com , pantip.com , thai2hand.com , sanook.com ฯลฯ ในนาม book2hand และก็เริ่มสะสมหนังสือมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งชีวิตเปลี่ยนแปลงไป มีคนก้าวเข้ามาร่วมชีวิตด้วยอีกคนหนึ่งซึ่งชื่อของเธอก็คือชื่อของร้านนี้นั่นเอง วันนั้น วันที่ผมบ่นเรื่องอิจฉาคนที่สามารถสั่งซื้อหนังสือทั้งเก่า ใหม่ได้จากทั่วทุกมุมโลกจาก e-bay, amazon และเวปอื่น ๆ แต่ทำไมเมืองไทยเราจึงไม่ค่อยมีเวปเช่นนี้เลย เธอคนนั้นสนับสนุนความคิดและอนุมัติให้เปิดร้านเป็นเรื่องเป็นราวในนาม "ร้านสุหนังสือเก่า" โดยลึกๆแล้ว เธอหวังว่าจะลดพื้นที่ในการจัดเก็บหนังสือในบ้านลงและได้เป็นเงินหมุนเวียนกลับมาใช้จ่ายในบ้านบ้าง แต่ถึงวันนี้ เธอคนนั้นยอมรับแล้วว่าคิดผิดเพราะเนื้อที่ในบ้านไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงและยังกระจัดกระจายออกไปสู่จุดอื่นๆ ทั่งที่เธอรู้และไม่รู้อีกเป็นจำนวนมาก!!!
