0.00
คะแนน
ผลงานของ หลานเสรีไทย (136) ประเภทปก อ่อน กระดาษ ปอนด์ พิมพ์ครั้งที่ 3 ปีที่พิมพ์ พ.ศ.2540 จัดพิมพ์โดย ตาที่สาม:สื่อเพื่อความเป็นธรรม จำนวนหน้า 737 หน้า พร้อมภาพประกอบสีและขาวดำบนกระดาษอาร์ตมัน ขนาด 150x210 มม. สภาพหนังสือ:ปกมอมแมม ถลอก ยับตามภาพ สันปกเป็นรอยจากการเปิดอ่าน , สันหนังสือเหลืองคล้ำเป็นจุดเหลืองประปราย รายละเอียดเพิ่มเติม: ข้าพเจ้ายอมรับว่า เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อก่อกวนสถานการณ์ ชีวิต วิญญาณ จิตใจ อารมณ์ และตีนอ่านโดยเฉพาะ แน่นอนว่าใครก็ตามที่คิดจะทำเช่นนี้ สมควรอย่างยิ่งที่จะมีเหตุผลที่ดีพอ สำคัญพอ ร้อนรนและรีบเร่งพอ และต้องมีความตั้งใจและจุดมุ่งหมายที่บริสุทธิ์จริง จริงหรือไม่จริง พอหรืไม่พอ เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องตัดสินกันเอง กลางปี 2530 ปีท่องเที่ยวไทย ข้าพเจ้ากำลังต่อสู้กับการปิดข่าวเรื่องเอดส์และการท่องเที่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าเกิดมีอาการไม่ทึ่งในรัฐบาลเปรม และในขบวนการสื่อสารมวลชนทุกระดับขึ้นตอน จนถึงกับ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย จนถึงวันดีคืนดึกมากๆคืนหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ทนเห็นคนอ่านถูกหลอกปิดตาปิดหูต่อไปไม่ไหว ต้องลุกขึ้นจากเตียงไปนั่งตาปรือเขียนบทความเกี่ยวกับกลวิธีแหกตาชาวบ้านโดยสื่อมวลชน เรื่อง "ระหว่างบรรทัด:วิธีอ่านข่าวและโฆษณาชวนเชื่อ" และนั่นเป็นข้อเขียนภาษาไทยเรื่องแรกของข้าพเจ้า....บางส่วนจากคำนำของผู้เขียน ที่ได้รับการยกย่องว่าเขียน สารคดีท่องเที่ยวแนวใหม่และสำนวนใหม่ ถึงใจและกินใจนัก..
ร้านสุหนังสือเก่า ร้านหนังสือเล็กๆ ในโลกออนไลน์ที่มุ่งมั่นจะให้ "หนังสือ" สิ่งที่เจ้าของร้านรักและทำให้เป็นผู้เป็นคนมาได้จนทุกวันนี้ ให้กระจายไปสร้างความสุข ทุกหนทุกแห่งในประเทศนี้เท่าที่โครงข่ายอินเตอร์เน็ตและไปรษณีย์จะอำนวย
ความเป็นมาของร้าน เริ่มต้นจากเมื่อประมาณปี 2542 หนอนหนังสือหนุ่มที่อยากทำธุรกิจซื้อ-ขายหนังสือบนอินเตอร์เน็ต โดยในช่วงแรกก็นำหนังสือที่ตนเองมีออกขายตามเวปบอร์ดต่าง ๆ เช่น bookcyber.com , pantip.com , thai2hand.com , sanook.com ฯลฯ ในนาม book2hand และก็เริ่มสะสมหนังสือมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งชีวิตเปลี่ยนแปลงไป มีคนก้าวเข้ามาร่วมชีวิตด้วยอีกคนหนึ่งซึ่งชื่อของเธอก็คือชื่อของร้านนี้นั่นเอง วันนั้น วันที่ผมบ่นเรื่องอิจฉาคนที่สามารถสั่งซื้อหนังสือทั้งเก่า ใหม่ได้จากทั่วทุกมุมโลกจาก e-bay, amazon และเวปอื่น ๆ แต่ทำไมเมืองไทยเราจึงไม่ค่อยมีเวปเช่นนี้เลย เธอคนนั้นสนับสนุนความคิดและอนุมัติให้เปิดร้านเป็นเรื่องเป็นราวในนาม "ร้านสุหนังสือเก่า" โดยลึกๆแล้ว เธอหวังว่าจะลดพื้นที่ในการจัดเก็บหนังสือในบ้านลงและได้เป็นเงินหมุนเวียนกลับมาใช้จ่ายในบ้านบ้าง แต่ถึงวันนี้ เธอคนนั้นยอมรับแล้วว่าคิดผิดเพราะเนื้อที่ในบ้านไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงและยังกระจัดกระจายออกไปสู่จุดอื่นๆ ทั่งที่เธอรู้และไม่รู้อีกเป็นจำนวนมาก!!!